พญาคันคาก
ที่มา : เล่าถึงความเป็นมาของประเพณีบุญบั้งไฟ
- รหัสชุดข้อมูล: TH-ST-MSU-035
- ชื่อเรื่องหลัก : พญาคันคาก
- ชื่อเรื่องรอง : -
- ประเภท : ตำนานปรัมปรา
- แก่นเรื่อง :
- ภาษา : ไทยถิ่นอีสาน
- ผู้เก็บข้อมูล : -
- ผู้ให้ข้อมูล : ภัสดาภร อินทะบุตร
- วันที่เก็บข้อมูล : -
- วันที่เผยแพร่ข้อมูล : 22 มิ.ย. 2561
- ผู้เผยแพร่ข้อมูล : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
- สิทธิ์ : สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
คำสำคัญ :
คางคกคำศัพท์เฉพาะ :
คันคาก = คางคกเนื้อเรื่อง
พระนางสีดา มเหสีของพระยาเอกราชผู้ครองเมือง ได้กำเนิดพระโอรสลักษณะแปลกประหลาด คือผิวกายเหลืองอร่ามดังทองคำ แต่เป็นตุ่มตอเหมือนผิวคางคก คนทั้งหลายจึงขนานนามพระกุมารว่า ท้าวคันคาก ซึ่งคันคากแปลว่าคางคก
เมื่อเติบโตพระกุมารได้หมายพระชายาที่มีศิริโฉมงดงาม แต่พระยาเอกราชได้ปรามไว้ เพราะทรงอับอายในรูปกายของท้าวคันคาก แต่ท้าวคันคากกะบ่ย่อท้อ จึงตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระอินทร์ ด้วยบุญบารมีมาแต่ชาติปางก่อนของท้าวคันคาก
พระอินทร์จึงเนรมิตปราสาทพร้อมอุตรกุรุทวีปผู้เป็นเนื้อคู่ให้เป็นพระชายา ส่วนท้าวคันคากก็ถอดรูปคันคากออกให้เห็นเป็นชายหนุ่มรูปงาม พระยาเอกราชยินดีกับพระโอรส จึงยกราชบัลลังค์ให้ครองต่อ ทรงพระนามว่า พญาคันคาก และครองบัลลังก์โดยตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม เดชานุภาพเป็นที่เลื่องลือ จนเมืองน้อยใหญ่มาสวามิภักดิ์ ทำให้เดือดร้อนไปจนถึงพญาแถนที่อยู่บนฟ้า เพราะคนหันไปส่งส่วยให้พญาคันคากแทนจนลืมบูชาพญาแถน จึงสั่งให้พญานาคงดให้น้ำในฤดูทำนา ทำให้เกิดเข้ายุคข้าวยากหมากแพง และความแห้งแล้ง ผู้คนเลยรวมตัวไปขอให้พญาคันคากช่วย
พญาคันคากรวบรวมกองทัพสัตว์มีพิษ เช่น มด ผึ้ง แตน ตะขาบ กบ เขียด ให้ทำทางยกทัพขึ้นไปสู่กับพญาแถน โดยส่งมดปลวกไปกัดกินศัตราวุธของพญาแถนที่เตรียมไว้
เมื่อถึงเวลารบพญาแถนจึงไม่มีอาวุธ ยามร่ายมนต์ ก็ถูกเสียงเขียด กา ไก่ กลบไปหมด จะเสกงูมากินเขียดก็ถูกแร้งของพญาคันคากจับกิน พญาแถนจึงยอมแพ้ พญาคันคากเลยว่า ขอเมตตาประทานฝนให้คนตรงตามฤดูกาล พญาแถนว่า ถ้าข้าลืมเล่า พญาคันคากตอบว่า จะให้คนจุดบั้งไฟขึ้นมาบอก ตั้งแต่นั้นมาชาวอีสานจึงมีประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อบูชาพญาแถน
เนื้อเรื่อง(ภาษาถิ่น)
พระนางสีดา มเหสีของพระยาเอกราชผู้ครองเมือง ได้กำเนิดพระโอรสลักษณะแปลกประหลาด คือผิวกายเหลืองอร่ามดังทองคำ แต่เป็นตุ่มตอเหมือนผิวคางคก คนทั้งหลายจึงขนานนามพระกุมารว่า ท้าวคันคาก ซึ่งคันคากแปลว่าคางคก
เมื่อเติบโตพระกุมารกะหมายพระชายาที่มีศิริโฉมงดงาม แต่พระยาเอกราชได้ปรามไว้ เพราะทรงอับอายในรูปกายของท้าวคันคาก แต่ท้าวคันคากกะบ่ย่อท้อ จึงตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระอินทร์ ด้วยบุญบารมีมาแต่ชาติปางก่อนของท้าวคันคาก
พระอินทร์จึงเนรมิตปราสาทพร้อมอุตรกุรุทวีปผู้เป็นเนื้อคู่ให้เป็นพระชายา ส่วนท้าวคันคากก็ถอดรูปคันคากออกให้เห็นเป็นชายหนุ่มรูปงาม พระยาเอกราชยินดีกับพระโอรส จึงยกราชบัลลังก์ให้ครองต่อ ทรงพระนามว่า พญาคันคาก และครองบัลลังค์โดยตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม เดชานุภาพเป็นที่เลื่องลือ จนเมืองน้อยใหญ่กะมาสวามิภักดิ์ เฮ็ดให้เดือดฮ้อนไปจนถึงพญาแถนที่อยู่เทิงฟ้า เพราะคนหันไปส่งส่วยให้พญาคันคากแทนจนลืมบูชาพญาแถน กะเลยสั่งให้พญานาคงดให้น้ำในฤดูเฮ็ดนา เฮ็ดให้เกิดเข้ายากหมากแพง และความแห้งแล้ง คนกะเลยไปขอให้พญาคันคากซอย
พญาคันคากกะเกณฑ์กองทัพสัตว์มีพิษ เช่น มด ผึ้ง แตน ตะขาบ กบ เขียด ให้เฮ็ดทางยกทัพขึ้นไปสู่กะพญาแถน โดยส่งมดปลวกไปกัดกินศัตราวุธของพญาแถนที่เพิ่นเตรียมไว้
ยามฮอดเวลารบพญาแถนกะบ่มีอาวุธ ยามสิร่ายมนต์ กะถืกเสียงเขียด กา ไก่ กลบเบิ่ดสิเสกงูมากินเขียดกะถืกแฮ้งของพญาคันคากจับกิน พญาแถนกะยอมแพ้ พญาคันคากกะเลยว่า ขอเมตตาประทานฝนให้คนตรงตามฤดูกาล พญาแถนว่าคั่นข่อยลืมเด้ พญาคันคากกะว่าสิให้คนจุดบั้งไฟขึ้นมาบอก ตั้งแต่นั้นมาชาวอีสานจึงมีประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อบูชาพญาแถน
คติสอนใจ
อย่าอิจฉาคนด้วยการกระทำ